คอลลาเจน ที่จริงแล้วคือ โปรตีนชนิดหนึ่งค่ะ เป็นสายยาวๆค่ะ ซึ่งจะทำหน้าที่ ค่อนข้างแตกต่างจากสารโปรตีนตัวอื่น ทั่วๆไป โดยสายเส้นใยของ คอลลาเจน นั้น จะถูกเรียกกันว่า Collagen Fiber {คอลลาเจนไฟเบอร์} ซึ่งจะมีรูปแบบ เป็นสายเกลียว spiral โดยที่มีหน่วยโมเลกุลเชื่อมพันกันเต็มไปหมดค่ะ โดยปกติผิวหนังที่มี คอลลาเจน {collagen} เป็นโครงสร้างอยู่จำนวนมากจึงมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดีตามกันไปด้วย คอลลาเจน {collagen} นั้นจะไม่ได้มีอยู่แต่ ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้นค่ะ แต่อวัยวะภายในร่างกายเอง นั้นก็มี คอลลาเจน {collagen} เป็นส่วนประกอบอยู่ค่อนข้างมาก อาทิเช่น เส้นเอ็น {ligaments}, ผังผืด {Fascia}, กระดูก {bone} ,กระดูกอ่อน {cartilage}, ข้อต่อ {tendons}, คอลลาเจนที่ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างนึ่งค่ะ ว่า เจลาติน

             เจลาติน นั้นจะมีความสามารถ เพื่อสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นค่ะ โดยเมื่อสารเจราตินในชั้นผิวมีปริมาณลดลง ก็จะทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัยขึ้นบนชั้นผิว, นอกเหนือไปกว่านั้น เจ้า เจราติน ยังมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือดอีกด้วยค่ะ และ มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ โดยรวมถึงทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อกระจกตาและเลนส์ตาอีกด้วยค่ะ

          Hydrolyzed Collagen เองก็ยังถูกใช้งานเพื่อ ลดน้ำหนักได้อีกด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของโปรตีนจึงทำให้มีข้อดี ที่จะช่วยในการเผาผลาญพลังงานเพื่อลดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่ายกาย

ด้านล่างนี้ จะอธิบายโดยละเอียดนะค่ะ :)

           คอลลาเจน {collagen} เป็นสารประเภทโปรตีน รวมทั้งเจลาตินก็เป็นคอลลาเจนด้วย คอลลาเจนประกอบด้วยสายของกรดอะมิโน 3 สาย แต่กรดอะมิโนที่นำมาใช้สร้างคอลลาเจนจะต่างจากกรดอะมิโนทั่วไป เพราะ ต้องอาศัยวิตามินซีเป็นตัวช่วย เช่น ไฮดรอกซีโพรลีน (Hydroxyproline) ซึ่งสร้างมาจากกรดอะมิโนโพรลีน (Proline)

          คอลลาเจนพบในสัตว์ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เส้นเอ็น ผิวหนัง ข้อต่อ และ กระดูกอ่อน โดยคอลลาเจนมี 28 ชนิด แต่ชนิดที่สำคัญในการสร้างเส้นใย และ พบมากมี 5 ชนิดคือ

1 Collagen I {ชนิดที่ 1} เป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุด 90% ของทั้งหมด จะพบที่ผิวหนัง เอ็น กระดูก ผนังหลอดเลือด

2 Collagen II {ชนิดที่ 2} พบที่กระดูกอ่อน วุ้นในตา

3 Collagen III {ชนิดที่ 3} พบที่ผนังเส้นเลือด เนื้อเยื่อที่สร้างใหม่ ผิวหนัง มดลูก ลำไส้

4 Collagen V {ชนิดที่ 5} พบที่ผม รก ผิวเซลล์

5 Collagen XI {ชนิดที่ 11} พบที่กระดูกอ่อน วุ้นในตา

          ร่างกายคนเราสามารถสร้าง คอลลาเจน {collagen}  ขึ้นเองได้โดยอาศัยโปรตีนจากอาหารเป็นแหล่งวัตถุดิบ หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอก็จะสร้าง คอลลาเจน  {collagen}  ได้น้อยลง มักพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะมีผิวหนังที่เหี่ยวย่นกว่าผู้ที่รับประทานอาหารครบถ้วน ทั้งนี้เพราะการรับประทานอาหารมังสวิรัติจะขาดกรดอะมิโนเมทไธโอนีน นอกจากนั้นอายุยังมีผลต่อการสร้าง collagen เมื่ออายุมากขึ้นการสร้างcollagen ก็จะลดลง โดยจะค่อยๆ ลดการสร้าง collagenในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย โดยตั้งแต่อายุ 25 ปี ร่างกายจะลดการสร้าง collagen จะลดลง 1.5% และเมื่ออายุ 40 ปี กระบวนการสร้าง collagen จะช้าลง 30% ผลจากการที่ร่างกายสร้าง คอลลาเจน ได้น้อยลงทั้งจากที่ร่างกายได้รับคอลลาเจน ที่ไม่เพียงพอและจากการที่อายุเพิ่มมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือผิวหนังเหี้ยวย่น เพราะคอลลาเจนทำให้ผิวหนังเต่งตึง และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำลายคอลลาเจน เช่น แสงแดด แสงจากหลอดไฟ มลภาวะ อนุมูลอิสระ และความเครียด พบว่าคนที่ตากแดดมากและอยู่ท่ามกลางมลภาวะผิวหนังจะเหี่ยวย่นง่ายกว่าคนที่ตากแดดน้อย เพราะรังสียูวีในแสงแดดจะทำลายคอลลาเจน ในแสงแดดจะมีรังสียูวีบี ซึ่งย่อมาจาก อัลตราไวโอเลตเบริน เป็นตัวทำให้ผิวไหม้ ส่วนในแสงจากหลอดไฟจะมีรังสียูวีเอ ซึ่งย่อมาจากอัลตราไวโอเลต แอบเซนต์เบริน เป็นรังสีที่ไม่ทำให้ผิวไหม้แดง แต่จะทำลายคอลลาเจนได้มากกว่าเพราะทะลุสู่ผิวได้ลึกกว่า

          สำหรับการกิน อาหารเสริมคอลลาเจน ก็เสมือนกับการให้แหล่งวัตถุดิบของ collagen แก่ร่างกายนั่นเองค่ะ ซึ่ง collagen จากอาหารเสริมจะมีข้อดีกว่า collagen ที่ได้จากการรับประทานเนื้อสัตว์ตรงที่ไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอลเมื่อร่างกายได้รับ collagen แล้ว คอลลาเจนจะถูกย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้เป็นกรดอะมิโนและถูกดูดซึมได้ง่ายกว่าคอลลาเจนจากเนื้อสัตว์ค่ะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารูปแบบของ collagen ต่างชนิดกันนั้น จะมีผลต่อการดูดซึม จากการศึกษาในอาสาสมัครสุขภาพดี 12 คนที่รับประทาน collagen ในรูปที่ย่อยเพื่อให้ดูดซึมง่ายซึ่ง เรียกว่า คอลลาเจนไฮโดรไลเซต โดยเปรียบเทียบชนิดของคอลลาเจนไฮโดรไลเซตต่างชนิดปริมาณตั้งแต่ 9.4-23 กรัม พบว่าคอลลาเจนไฮโดรเซตสาสมารถดูดซึมสู่ลำไส้ได้ แต่มีเพียงคอลลาเจนไฮโดรไลเซตจากไก่เท่านั้นที่อยู่ในรูปกรดอะมิโน 3 สาย และจากการศึกษาเปรียบเทียบผลการรับประทานคอลลาเจนไฮโดรไลเซตจาก หนังปลา เกล็ดปลา หนังหมู กับอาหาสมัครสุขภาพดี 5 คนแล้ว ทำการตรวจวัดระดับและรูปแบบของกรดอะมิโนในเลือด ได้พบว่า กลุ่มที่รับประทาน คอลลาเจนไฮโดรไลเซต จาก เกล็ดปลาเท่านั้น ที่จะมี คอลลาเจนไฮโดรไลเซต ที่อยู่ในรูปกรดอะมิโน 3 สาย นอกจากนั้นหาก เรารับประทาน คอลลาเจน ร่วมกับวิตามินซีก็จะเสริมประสิทธิภาพการดูดซึมอีกด้วยค่ะ

Description

Suggested Use

Other Ingredients

Warnings